เริ่มไม่โอเค บอร์ดเชลซีเล็งเด้งแลมพาร์ดหากยังห่วยไม่เลิก

เริ่มไม่โอเค ดิ แอธเลติก สื่อกีฬาที่มีความน่าเชื่อถือสูง ตีข่าว คนใหญ่คนโตของ เชลซี เริ่มพิจารณาเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะหาคนมาคุมกลุ่มแทน แฟร้งค์ แลมพาร์ด

เริ่มไม่โอเค หลังจากฟอร์มในระยะหลัง ของกลุ่มน่าเป็นห่วง โดยพวกเขายังกังวลผลงานส่วนตัวของอีกทั้ง ติโม แวร์เนอร์ กับ ไค ฮาแวร์ทซ์ ด้วยบอร์ดบริหารของ เชลซี สมาคมดังของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

เริ่มพิจารณาเกี่ยวกับการที่อาจจะหาคนมาเป็นกุนซือแทน แฟร้งค์ แลมพาร์ด แล้ว โดยพวกเขาจะปลดอดีตกาลมิดฟิลด์ คนดังถ้าเกิดฟอร์มยังย่ำแย่แบบนี้ถัดไป ตามรายงานของ ดิ แอธเลติก สื่อกีฬาชั้นนำ ผลบอลล่าสุด

ฤดูกาลก่อน แลมพาร์ด ทำผลงานได้ ยอดเยี่ยมด้วย การนำกลุ่มได้ชั้น 4 ของตารางคะแนนรวมทั้ง ไปถึงรอบชิงแชมป์ของ เอฟเอ คัพ ได้ ทั้งๆที่มิได้ ทำเสริมกองทัพเลยตลอดทั้งฤดูกาล ทำให้ตอนซัมเมอร์ที่ผ่านมาเขาได้รับการหนุนภายหลังจากบอร์ดบริหารอย่าง เต็มเปี่ยมกระทั่ง ใช้เงินเสริมกองทัพไปเกิน 200 ล้านปอนด์ (ราวๆ 8,000 ล้านบาท)

เริ่มไม่โอเค อย่างไรก็ดี ผลงานของ ในฤดูกาลนี้กลับออกมาน่าผิดหวัง โดยกลุ่มของเขาเก็บแต้มในลีกได้เพียงแต่ 26 คะแนนจาก 17 ครั้งแรก ซึ่งนับว่าเป็นผลงานในลีกตอน 17 เกมแรกที่ทรามที่สุดเป็นชั้น 2 ของ ในสมัยที่มี โรมัน อบราโมวิช เป็นเจ้าของกลุ่ม

โดยนัดหมายปัจจุบัน เชลซี พึ่งแพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ติดอยู่รัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ 1-3 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม ก่อนหน้านี้ กระทั่งทำให้พวกเขาแพ้ในลีกเป็นเกมที่ 4 จาก 6 นัดหมายหลังสุด พร้อมกับทำให้กลุ่มอยู่ในชั้นที่ 8 ของตารางคะแนน

เว้นเสียแต่เรื่องผลงานที่ย่ำแย่ลงอย่างยิ่งแล้วนั้น ดิ แอธเลตำหนิก เสริมว่าคนใหญ่โตของ ก็หนักใจเกี่ยวกับฟอร์มของ ตำหนิโม แวร์เนอร์ กับ ไค ฮาแวร์ทซ์ 2 จอมบุกคนใหม่ของกลุ่มด้วย แถมสื่อเจ้าดิมก็บอกเหตุว่าที่ผ่านมา

มีนักเตะบางบุคคลของ ที่มีความเชื่อมโยงอันตกต่ำกับ แลมพาร์ด เหมือนกัน ภายหลังพวกเขามิได้รับจังหวะลงเล่นมากแค่ไหนนัก และก็กระดานบริหารของกลุ่มก็เอาการนั้นไปเป็นเยี่ยมในเหตุการพินิจอนาคตของ ด้วย

ที่ปรึกษาเก้าอี้ร้อน เปิดใจข้างหลังนำกลุ่มแพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คาบ้านตนเองในเกมลีกเมื่อสุดสัปดาห์ก่อนหน้านี้ พร้อมรับนี่เป็นบทเรียนราคาแพงที่ลำแข้ง “สิงห์บลูส์” จำเป็นต้องจำเอาไว้ กระตุ้นทุกๆคนจำเป็นต้องผ่านวิกฤติเลวร้ายนี้ไปให้ได้

เริ่มไม่โอเค ผู้จัดการทีมฟุตบอลชายหนุ่ม “สิงโตน้ำเงินคราม” สุดผิดหวังที่ต้นสังกัดโดน “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกมาไล่ต้อนด้วยสกอร์ 1-3 คาถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 ม.ค.ก่อนหน้านี้ โควิดทำพิษ

เจ้าของบ้านดูเหมือนจะทำเป็นดีในตอนต้นครึ่งแรก แต่ว่าไม่อาจจะเจาะตาข่าย แมนฯ ซิตี้ ได้ จนกระทั่งกลุ่มเยี่ยมเริ่มตั้งเกมได้บ้างแล้วก็จัดการสอนด้วยการยิงนำห่าง 3 ประตูจาก อิลคาย กุนโดกัน, ฟิล โฟเด้น รวมทั้ง เควิน เดอ บรอยน์

ในช่วงเวลาที่ช่วงหลังกลุ่มของผู้จัดการทีมเป๊ป กวาร์ดิโอล่า เพลาเกมลงไป ทำให้ “สิงห์บลูส์” มาได้ประตูปลอบใจจาก คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย ช่วงทดเวลาเจ็บ

สำหรับความพ่ายแพ้ในเกมนี้ทำให้ ตกไปอยู่ชั้น 8 แล้ว โดยเปิดใจหลังเกมว่า “สำหรับตอน 10 นาที พวกเราทำผลงานก้าวหน้า ผมไม่อย่าอ้างประเด็นนี้แม้กระนั้นมันเกิดเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในเกมนี้ พวกเราเสีย 2 ประตูที่แย่มากๆแล้วก็ผมรู้สึกผิดหวังจริงๆผมรู้สึกว่าพวกเรามิได้แสดงปฏิกิริยาตอบสนองอย่างที่ผมต้องการ”

“นี่เป็นบทเรียนราคาแพงสำหรับในตอนครึ่งแรก แม้กระนั้นพวกเราได้บ่งบอกถึงถึงความมุ่งมั่นในช่วงหลัง อย่างไรก็ดี เกมนี้มันขาดไปแล้ว ผมทราบดีว่า เดอ บรอยน์ เคยอยู่ตรงนี้ตอนเป็นดาวรุ่ง และไม่สามารถ ก้าวขึ้นมาอยู่ในกลุ่ม (ชุดใหญ่) จะต้องชูเครดิตให้กับเขา เขาจากไปรวมทั้งกลับตรงนี้ สำหรับในขณะนี้เขาเป็น เควิน เดอ บรอยน์ ที่ยอดเยี่ยมมากมายๆ”

“จริงๆแล้วเมื่อ 1 เดือนที่แล้วหน้านี้ และก็ในตอนต้นฤดูมี การบอกกันตลอดว่าพวกเราได้โอกาสได้แชมป์ลีกได้ไหม แม้กระนั้นผมทราบว่านี่เป็นตอนๆสร้างกลุ่มใหม่ และก็การมอบโอกาสดาวรุ่งลงในสนาม ผมทราบว่า นี่เป็นขณะ ที่แสนเจ็บที่ พวกเราจำเป็นจะต้องผ่านมันไปให้ได้”

“บิ๊กแมตช์” พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วีก 17 เมื่อคืนนี้วันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม ที่ผ่านมา ระหว่าง เชลซี ชั้น 6 เปิดรังจัดการ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชั้น 8

เริ่มไม่โอเค โดย “สิงห์บลูส์” ของ แฟร้งค์ ปรับกองทัพ ใช้สามแนวรุกเป็น ฮาคิม ซิเย็ค ที่หายเจ็บกลับมาสตาร์ตัวจริงร่วมกับ ติโม แวร์เนอร์ และก็ คริสเตียน พูลิสิช ส่วนทางฝั่งของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นายใหญ่ของ “เรือใบสีฟ้า” ปวดหัวกับปัญหาของผู้เล่นที่ติดเชื้อโควิด-19 หายราย

เกมนี้ส่ง แซ็ค สเตฟเฟ่น นายด่านวัย 25 ปี ลงเฝ้าเสาในลีกเป็นเกมแรก ส่วนแนวรุกวาง ราฮีม สเตอร์ลิง หน้าเป้าและก็ใช้ เควิน เดอ บรอยน์ และแบร์นาร์โด้ ซิลวา ปั้นเกม

เพียงแค่ 4 นาทีแรก แซ็ค สเตฟเฟ่น นายด่านของเรือใบสีฟ้าที่เล่นในลีกนัดแรกก็ทำเสียวเสียแล้ว เมื่อรับบอลจากจังหวะที่ โรดรี้ คืนหลังในกรอบ ผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะแบ็คพาสทำให้จำต้องเสียฟรีคิก 2 จังหวะบนเส้น 18 หลา แต่ ฮาคิม ซิเย็ค ดันซัดไปติดบล็อคออกหลัง

นาที 16 จังหวะได้ลุ้นคราวแรกของ แมนฯซิตี้ เกือบได้ประตูขึ้นนำหลัง ชูเอา กันเซโล่ แทงทะลุช่องให้ เควิน เดอ บรอยน์ หลุดกับล้ำหน้าเข้าไปซัดด้วย ขวาบอลพุ่งถากเสาไกลออกไปอย่างน่าเสียดาย